ยินดีต้อนรับสู่บล็อคของพิมพ์มาดา โสมณะ โรงเรียนพิมานพิทยาสรรค์ จังหวัดสตูล ค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2558

ปลาราดพริก

 สูตรอาหารไทย : ปลาราดพริก

[ FRIED FISH WITH TAMARIND SAUCE ]
    
ปลาราดพริก
ด้วยความอุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ปลาจึงเป็นอาหารที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี และหนึ่งในเมนูปลาที่ ติดอันดับความนิยมคงหนีไม่พ้นปลาราดพริกเป็นแน่ เคล็ดลับความอร่อยคือ ปลาที่นำมาทอดต้องเป็นปลาที่สด และ น้ำมันที่ใช้ทอดต้องสะอาดใหม่ น้ำมันที่ผ่านการทอดแล้วหลายครั้ง นอกจากจะทำให้ปลาทอดไม่อร่อยแล้ว ยังส่งผล ร้ายต่อสุขภาพด้วย สูตรน้ำราดก็มีส่วนเพิ่มความอร่อยให้กับปลาทอด เมื่อทำเสร็จ ควรเสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* ปลา 1 ตัว น้ำหนักประมาณ 400-500 กรัม
  (ล้างทำความสะอาดและขอดเกล็ด)
* น้ำมะขาม 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
* หอมแดงหั่นหยาบ 1 หัว
* กระเทียมหั่นหยาบ 2 กลีบ
* ผักชี (เด็ดเอาแต่ใบ ไว้แต่งหน้าอาหาร)
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* พริกชี้ฟ้าหั่นหยาบ (สีแดงหรือเหลือง) 3 เม็ด

ปลาทอด
ปลาราดพริก
     วิธีทำทีละขั้นตอน
ปลาทอด:
1. บั้งข้างตัวปลาทั้งสองข้าง เพื่อให้เวลาทอดเนื้อปลาสุกได้ง่ายและสุกทั่วทั้งตัว
2. ใส่น้ำมัน (ประมาณ 1/2 ถ้วยตวงหรือพอท่วมตัวปลา) ในกระทะและนำไปตั้งไฟอ่อน ทอดปลาให้สุกทีละข้าง (หนึ่งข้างใช้เวลาประมาณ 10 นาที) ระหว่างทอดอย่ากลับหน้าปลาจนกว่าข้างหนึ่งข้างใดจะสุก เพราะจะทำให้เนื้อปลาเละไม่น่าทาน
3. เมื่อข้างหนึ่งสุกจึงกลับหน้าไปอีกข้าง โดยเวลาในการทอดอีกข้างให้สุกจะไม่นานเท่าข้างแรก (ใช้เวลาประมาณ 5 นาที) เมื่อปลาสุกดีแล้วให้นำออกมาวางบนกระดาษซับมัน แล้วจึงนำไปจัดใส่จานไว้
เคล็ดลับ : เพื่อให้ได้ปลาที่กรอบขึ้น ให้นำปลาที่ทอดแล้วไปอบในเตาอบที่อุณหภูมิประมาณ 350 องศาฟาเรนไฮต์ (~175 องศาเซลเซียส) ประมาณ 10 นาท
น้ำราดปลา :
1. ใส่น้ำมันประมาณ 1 ช้อนโต๊ะในกระทะ นำไปตั้งไฟอ่อนๆ จากนั้นใส่พริก, หอมแดง และกระเทียมลงไป ผัดให้เข้ากัน
2. ปรุงรสด้วยน้ำมะขาม, น้ำปลา, น้ำตาล และน้ำเปล่าประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ คนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเริ่มเดือด ถ้าน้ำราดข้นเกินไป สามารถเิติมน้ำเปล่าลงไปเพิ่มได้อีกนิดหน่อย รสชาิิติของน้ำราดควรจะมีรสหวาน, เผ็ดและเปรี้ยวพอๆกัน
3. เมื่อเตรียมน้ำราดเสร็จแล้ว จึงนำไปราดหน้าปลาที่ทอดไว้แล้ว แต่งหน้าด้วยผักชี เสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ




ขอบคุณข้อมูลสูตรต่างๆจาก EzyThaiCooking.com ค่ะ 

 

ยำวุ้นเส้น

สูตรอาหารไทย : ยำวุ้นเส้น

[ THAI VERMICELLI SALAD WITH PRAWN ]
    
ยำวุ้นเส้น
ยำวุ้นเส้น เป็นหนึ่งเมนูในดวงใจของสาวๆ หลายคน และเป็นเมนูที่นิยมมากที่สุดเมนูนึงในหมวดอาหารประเภทยำ ด้วยรสชาติที่จัดจ้าน รสเปรี้ยวและรสเผ็ดที่เข้ากันอย่างพอดี ยำวุ้นเส้นจึงเป็นกับแกล้มชั้นดีอีกด้วย เคล็ดลับความอร่อยคือ อย่าลวก วุ้นเส้นนานจนเกินไป เส้นจะอืดและไม่น่าทาน ด้วยปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ต่ำ ยำวุ้นเส้นจึงเป็นอาหารที่ผู้ควบคุมน้ำหนัก นิยมรับประทานด้วยเช่นกัน

 เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* กุ้งขนาดกลาง 10 ตัว (ล้างทำความสะอาดและปอกเปลือก)
* หมูสับ 100 กรัม
* คึ้นช่าย 20 กรัม (หั่นความยาวประมาณ 1 นิ้ว)
* หัวหอมใหญ่ 1 หัว (หั่นเป็นชิ้น)
* มะเขือเทศ 2 ลูก (หั่นเป็นชิ้น)
* หอมแดงซอย 20 กรัม
* พริกขี้หนูหั่นหยาบ 5 เม็ด
* วุ้นเส้น 40 กรัม
* น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ

หัวหอมใหญ่
ยำวุ้นเส้น
     วิธีทำทีละขั้นตอน
1. นำหมูสับและกุ้งที่แกะแล้วไปลวกในน้ำร้อนจนสุก สะเด็ดน้ำให้แห้ง
2. จากนั้นนำวุ้นเส้นไปลวกน้ำร้อนจนนุ่ม จึงตักออกและทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ
3. ผสมเครื่องปรุงทั้งหมดลงในชามขนาดใหญ่ ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำตาลและน้ำมะนาว ตักใส่จานเสิรฟ แต่งหน้าด้วยผักสด (กะหล่ำปลีซอย, แตงกวา, ถั่วฝักยาว, เป็นต้น)



ขอบคุณข้อมูลสูตรต่างๆจาก EzyThaiCooking.com ค่ะ 

ภาพเคลื่อนไหวน่ารัก ๆ

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ข้าวผัดกุ้ง

ตรอาหารไทย : ข้าวผัดกุ้ง

[ THAI FRIED RICE WITH PRAWNS ]
  
ข้าวผัดกุ้ง
ข้าวผัดเป็นหนึ่งในเมนูอาหารจานด่วนไทย ที่ทุกคนนิยมรับประทาน ด้วยความง่ายในการปรุงทำให้เป็นที่นิยมในร้านอาหารตามสั่งทั่วไป ด้วยความนิยมมากมายทำให้ข้าวผัดติดอันดับ 1 ใน 10 อาหารไทยยอดนิยมที่ชาวต่างขาติและคนไทยชอบรับประทานด้วย เคล็ดลับความอร่อยคือ อย่านำข้าวที่เพิ่งหุงสุกใหม่ๆ มาผัด เพราะจะทำให้ข้าวแฉะไม่น่ารับประทาน สำหรับวัตถุดิบที่ใส่ลงไปผัด ปรับเปลี่ยนได้ ไม่ว่าจะเป็นหมู, ไก่, กุ้ง หรือปู เมื่อผัดเสร็จ ควรเสริฟพร้อม มะนาวฝาน, แตงกวาและต้นหอมเป็นเครื่องเคียง และที่ขาดไม่ได้เลยคือ พริกน้ำปลา เสริฟขณะร้อนๆ อร่อยยิ่งนัก

  เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* ข้าวสวย 3 ถ้วงตวง
* กุ้งขนาดปานกลาง 12 ตัว (ล้างและปอกเปลือก)
* กระเทียมหั่นละเอียด 3 กลีบ
* พริกขี้หนูหั่นละเอียด 1/2 เม็ด (กรณีชอบรสจัด)
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

* ไข่ไก่ 2 ฟอง
* ต้นหอมซอยละเีอียด 3 ต้น
* ใบผักชี 1/2 ถ้วยตวง
* แตงกวา 1 ลูก (หั่นเป็นชิ้น)
* มะนาว 1/2 ลูก (หั่นเป็นเสี้ยว)
* มะเขือเทศ 1 ลูก (หั่นเป็นชิ้นๆ)

พริกน้ำปลา
ข้าวผัดกุ้ง
     วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ใส่น้ำมันในกระทะและนำไปตั้งไฟปานกลาง ใส่กระเทียมและพริกลงไปผัดจนเริ่มหอม (ประมาณ 1 นาที)
2. ใส่กุ้งลงไปในกระทะและผัดจนสุก
3. ใช้ตะหลิวย้ายส่วนผสมที่อยู่ในกระทะไปด้านข้าง แล้วตอกไข่ใส่ลงไปในกระทะ ใช้ตะหลิวเขี่ยไข่แดงให้แตก รอจนไข่เริ่มสุกให้ใส่ข้าวสวยลงไป และผัดทุกอย่างในกระทะให้เข้ากัน
4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา และใส่มะเขือเทศลงไป ผัดต่ออีก 1-2 นาทีจึงปิดไฟ ก่อนเสิรฟโรยหน้าข้าวผัดด้วยต้นหอมซอยและผักชี จัดข้างจานด้วยแตงกวาซอยและมะนาวที่หั่นเป็นเสี้ยวไว้แล้ว เสิรฟพร้อมพริกน้ำปลา



ขอบคุณข้อมูลสูตรต่างๆจาก EzyThaiCooking.com ค่ะ 
ภาพเคลื่อนไหวน่ารัก ๆ

ห่อหมกปลา

      สูตรอาหารไทย : ห่อหมกปลา

[ THAI STEAMED CURRIED FISH ]
    
ห่อหมกปลา
ห่อหมกปลา เป็นอาหารไทยที่สามารถหาทานได้ง่าย มีขายทั่วไปตามร้ายข้าวแกง เนื้อปลาสดๆ เมื่อนำไปผสมกับเครื่องแกง , กะทิสด และเครื่องปรุงสมุนไพรแล้ว รสชาติอร่อยยิ่งนัก ภาชนะที่ใส่นึ่งอาจปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม โดยทั่วไปนิยม ใส่ในกระทงใบตอง บางสูตรมีการใส่เนื้อมะพร้าวเข้าไปด้วย เลยใส่ห่อหมกเข้าไปในลูกมะพร้าวเพื่อนำไปนึ่งก็มี เคล็ดลับ ความอร่อยอยู่ที่เนื้อปลาต้องสด มิเช่นนั้นห่อหมกจะเหม็นคาวเมื่อนึ่งสุก
 เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* เนื้อปลา 300 กรัม (หั่นเป็นชิ้นบางๆ)
* ใบกะหล่ำปลี 5 ใบ (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ)
* แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
* ใบผักชี 10 ใบ
* พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด (ซอยเป็นเส้นบางๆ)
* ใบมะกรูดซอยละเอียด 4 ใบ
* น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
* กะทิ 1 กระป๋อง
* ไข่ไก่ 2 ฟอง
* น้ำปลา 1 ช้อนชา
* น้ำตาล 2 ช้อนชา
ห่อหมกปลา
ห่อหมกปลา
     วิธีทำทีละขั้นตอน
1. เทกะทิประมาณ 1 ถ้วยตวงลงในชามใบใหญ่ (แยกกะทิ 1/4 ถ้วยตวงไว้ราดหน้าห่อหมก) ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปและคนจนกะทิกับเครื่องแกงผสมกันดี
2. ใส่เนื้อปลาลงในส่วนผสม คนจนกระทั่งเนื้อปลาผสมกันดีกับกะทิและเครื่องแกง เติมไข่ไก่, น้ำปลา และน้ำตาล คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
3. นำใบกะหล่ำปลีที่ซอยไว้แล้วไปลวกในน้ำร้อนประมาณ 3 นาที จากนั้นให้นำไปล้างด้วยน้ำเย็น
4. บีบกะหล่ำให้น้ำออกให้หมด จากนั้นจึงนำไปใส่รองพื้นในถ้วยใบตอง (หรือถ้วยแก้วใบเล็กๆ) เสร็จแล้วตักเครื่องแกงที่ผสมดีแล้วจนเกือบเต็มถ้วย นำไปนึ่งประมาณ 30 นาที
5. นำแป้งข้าวเจ้าไปผสมกับกะทิที่แยกไว้แต่งหน้า คนจนเข้ากันดีแล้วนำไปใส่ไมโครเวฟ อุ่นด้วยไฟอ่อนประมาณ 1 นาที
6. หลังจากห่อหมกนึ่งเสร็จ แต่งหน้าด้วยกะทิที่เตรียมไว้ และโรยหน้าด้วย ผักชี, ใบมะกรูดและพริกซอย นึ่งต่อไปอีก 3 นาที จึงนำไปจัดใส่จานและเสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ



ขอบคุณข้อมูลสูตรต่างๆจาก EzyThaiCooking.com ค่ะ 

ผัดกะเพราไก่

 สูตรอาหารไทย : ผัดกะเพราไก่

[ FRIED CHICKEN WITH BASIL LEAVES ]

ผัดกะเพราไก่+ไข่ดาว
ผัดกะเพราถือเป็นหนึ่งในอาหารฟาสต์ฟู๊ดหรืออาหารจานด่วนยอดฮิตของคนไทย ใบกะเพรา (Holy basil) มีประโยชน์ มากมาย มีเบต้าแคโรทีน, เหล็ก, ฟอสฟอรัส และวิตามีนซีสูง มีสรรพคุณช่วยไล่ลมในกระเพาะ แก้ท้องอื่ด จุกเสียด กลิ่นใบกะเพรามีลักษณะเฉพาะ นิยมนำมาประกอบอาหารเพื่อดับคาวเนื้อสัตว์ สำหรับเมนูกะเพรา สามารถเปลี่ยนวัตถุดิบ ได้หลายอย่าง อาจเป็นหมู, ไก่, กุ้ง, หมึก เป็นต้น เสริฟพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ และไข่ดาว อร่อยยิ่งนัก
    
เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* เนื้อไก่ 450 กรัม (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีำคำ)
* กระเทียม 5 กลีบ (สับให้ละเอียด)
* หัวหอมใหญ่ 1/2 ถ้วยตวง (หั่นเป็นชิ้นบางๆ)
* น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
* ซิอิ๊วดำ 2 ช้อนชา
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* ใบกะเพรา 1 ถ้วยตวง
* พริก 7 เม็ด (ทุบพอแหลกและสับหยาบๆ)
* พริกไทยป่น
หมายเหตุ : สามารถใส่ผักอื่นๆลงไปผัดร่วมด้วยเช่น แครอท, ถั่วฝัก, ข้าวโพดอ่อน เป็นต้น

ใบกะเพรา
ผัดกะเพราไก่+ไข่ดาว
     วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ตั้งน้ำมันในกระทะจนร้อน จากนั้นใส่กระเทียมและผัด 5-10 วินาที ใส่หอมใหญ่ และผัดต่อไปอีกสักพักจนกลิ่นเริ่มหอม ใส่เนื้อไก่ลงต่อและผัดจนเนื้อไก่สุกทั่ว
2. ใส่พริกและซิอิ๊วดำลงไปในกระทะ ผัดต่อไปอีก 15-20 วินาที
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา และใส่ใบกะเพราลงไปในกระทะ ปิดไฟจากนั้นผัดให้กะเพราผสมกับเนื้อไก่่่จนทั่ว
4. ตักกะเพราใส่จาน โรยหน้าด้วยพริกไทย เสิรฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ในบางครั้งไข่เจียวหรือไข่ดาวมักจะเสิรฟร่วมด้วย




ขอบคุณข้อมูลสูตรต่างๆจาก EzyThaiCooking.com ค่ะ 

พะแนงเนื้อ

 สูตรอาหารไทย : พะแนงเนื้อ

[ BEEF PANAENG ]
   
พะแนงเนื้อ
พะแนงเป็นอาหารยอดนิยมของคนไทยอีกเมนูหนึ่งที่ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย พะแนงสามารถหาทานได้ง่าย พบเป็นเมนูประจำตามร้านขายข้าวแกงทั่วไป ซึ่งอาจเปลี่ยน จากเนื้อ เป็นหมู หรือไก่บ้าง แต่เครื่องปรุงสำคัญคือน้ำพริกแกงพะแนง ซึ่งมีพริกแห้งเป็นส่วนผสม ทำให้สีของน้ำพริกออกแดง เวลาทำไม่ต้องใส่น้ำเยอะ พอให้ขลุกขลิก เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่น้ำพริกแกงพะแนง และกะทิที่ใช้ควรเป็นกะทิสด เสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ อร่อยยิ่งนัก

 เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* เนื้อวัว 400 กรัม (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
น้ำพริกแกงพะแนง 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
* กะทิ 150 กรัม
* น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* ใบโหระพา 10 ใบ
* พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด (หั่นตามแนวขวาง)
* ใบมะกรูด 3 ใบ (ซอยละิีเอียด)

ใบมะกรูดซอยละเอียด
พะแนงเนื้อ
     วิธีทำทีละขั้นตอน
1. นำเครื่องแกงไปผัดกับน้ำมันประมาณ 1 นาที จากนั้นจึงใส่กระทิลงไปและต้มต่อไปจนเดือด
2. ใส่เนื้อวัว แล้วจึงปรุงรสด้วยน้ำตาลและน้ำปลา
3. เมื่อเนื้อสุกดีแล้ว จึงใส่ใบโหระพา, พริกและใบมะกรูด คนต่อไปอีกสักพัก ตักใส่ถ้วยและเสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ


ขอบคุณข้อมูลสูตรต่างๆจาก EzyThaiCooking.com ค่ะ 

ส้มตำไทย

สูตรอาหารไทย : ส้มตำไทย

[ THAI PAPAYA SALAD ]
    
สูตรอาหารไทย : ส้มตำไทย
ส้มตำ ถือเป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติของคนไทย นิยมมากขนาดติด 1 ใน 10 อาหารไทยยอดนิยมที่ชาวต่างชาติและคนไทยชอบรับประทาน และยังดังไปถึงระดับโลกด้วยการติดอันดับที่ 46 จากการสำรวจข้อมูลของเว็บไซต์ cnngo.com ที่จัดอันดับสุดยอดอาหาร 50 เมนูทั่วโลกในปี 2011 เมนูชื่อส้มตำแต่ส่วนผสมหลักมาจากมะละกอดิบ รสชาติปรับได้ตามใจผู้บริโภค ชอบรสเผ็ดใส่พริกเพิ่ม ชอบรสเปรี้ยวใส่มะนาวเพิ่ม เป็นเมนูสุขภาพและเหมาะสำหรับผู้ต้องการลดน้ำหนัก เสริฟส้มตำพร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใครเชียว

 เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* มะละกอดิบหั่นฝอย 2 ถ้วยตวง
* แครอทหั่นฝอย 1/2 ถ้วยตวง
* ถั่วฝักยาว 1/2 ถ้วยตวง (หั่นความยาวประมาณ 1" )
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาลปี๊บ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
   (ถ้าไม่มีสามารถใช้น้ำตาลทรายแทนได้)
* น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
* มะเขือเทศ 1/2 ถ้วยตวง (หั่นครึ่ง)
* กุ้งแห้ง 1/3 ถ้วยตวง
* ถั่วลิสง 1/4 ถ้วยตวง
* พริกขี้หนู 10 เม็ด (ปรับเพิ่ม/ลด ตามความต้องการ)
* กระเทียมสด 5 กลีบ

ข้าวเหนียว
ส้มตำไทย
     วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ใส่กระเทียมและพริกลงในครก ใช้สากตำพอแหลก จึงใส่กุ้งแห้งและตำต่อไปอีกสักพัก
2. ใส่น้ำตาลปี๊บ ตำต่อจนน้ำตาลละลาย จึงใส่มะละกอฝอย, แครอทฝอย, ถั่วฝักยาว, มะเขือเทศ, ถั่วลิสง ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะนาว จากนั้นจึงตำต่อจนส่วนผสมทั้งหมดเคล้ากันทั่ว
3. ปรุงรสให้ถูกปากด้วย น้ำตาล, น้ำปลา หรือน้ำมะนาวเพิ่ม รสดั้งเดิมจะมีรสหวาน, เผ็ด และเปรี้ยวพอๆกัน
4. ตักใส่จานและโรยหน้าด้วยถั่วลิสง เสิรฟพร้อมผักสด (กะหล่ำปลี, ถั่วฝักยาว, ผักบุ้งไทย, อื่นๆ) และข้าวเหนียวร้อนๆ




                ขอบคุณข้อมูลสูตรต่างๆจาก EzyThaiCooking.com ค่ะ